tag:blogger.com,1999:blog-52936134721132657842024-03-14T01:38:12.072+07:00Journey In Thailandkannikar_011http://www.blogger.com/profile/11082927599028624968noreply@blogger.comBlogger14125tag:blogger.com,1999:blog-5293613472113265784.post-60173080377898659642010-06-02T15:40:00.001+07:002010-06-02T15:44:20.037+07:00แพคเกจทัวร์และโปรโมชั่น...โครงการเที่ยวไทยให้ถึงธรรม ปีที่ 2<div style="text-align: center;"><span style="background-color: orange; color: red;">โครงการเที่ยวไทยให้ถึงธรรม ปีที่ 2 </span></div><div style="text-align: center;"><br />
</div>เที่ยวทั่วไทยให้ถึงธรรมทั้ง 5 ภาค กับ 50 สถานปฎิบัติธรรมทั่วไทยเพื่อการเที่ยวไทยให้ถึงธรรม จัดโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ และเครือข่ายธรรมะภาคีทั่วไทย<br />
<br />
<span style="color: blue;">1. เที่ยวไทยให้ถึงธรรมที่สวนโมกข์อีสาน : วัดสุนทรียาราม ต.โคกศิลา อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร </span><span style="color: blue;">ระหว่างวันที่ : วันพฤหัสบดีที่ 27 – วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม 2553 </span><span style="color: blue;">ทำบุญวิสาขบูชาคลายทุกข์ ด้วยการปฎิบัติธรรมกับ พระอาจารย์ยงยุทธ ฐิตธัมโม</span> <br />
เดินทางด้วยรถบัสจากกรุงเทพมหานคร แวะทัศนศึกษาระหว่างทางแวะสักการะพระมหาธาตุแก่นนคร ชมทัศนียภาพบึงแก่นนครและเมืองขอนแก่น ชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติขอนแก่น ที่เก็บหลักฐานทางพุทธศาสนาเมื่อพันปีก่อน จากนั้นร่วมตั้งจิตอธิษฐาน ปฏิบัติธรรม ถวายเป็นกุศลให้บ้านเมืองสงบสุขที่สวนโมกข์อีสาน ขากลับแวะชมพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติบ้านเชียง เพื่อย้อนรอยประวัติศาสตร์กว่า 5,000 ปี แล้วมาอิ่มอร่อยกับไก่ย่างเขาสวนกวาง เพื่อเติมพลังให้ซื้อหาของฝากจากแดนที่ราบสูง <br />
<span style="color: blue;"></span><br />
<span style="color: blue;">2. เที่ยวไทยให้ถึงธรรมที่สวนโมกข์เชียงราย : วัดวรกิจตาราม ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย </span><span style="color: blue;">ระหว่างวันที่ : วันพฤหัสบดีที่ 10 – วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 2553 </span><span style="color: blue;">ปฏิบัติธรรมนำชีวิตสู่ความสงบกับพระครูวิศาลวรกิจ</span><br />
จากกรุงเทพมหานครมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือระหว่างเดินทางนอกจากได้สนุกกับการปิกนิกบนรถและยังได้ชมธรรมชาติสองข้างถนนที่เต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิตใหม่หลังเข้าสู่ฤดูฝน จากนั้นหยุดรับประทานอาหารที่โรงแรมเวียงตากริเวอไซด์ แล้วมุ่งหน้าต่อเพื่อรายงานตัวเข้าปฏิบัติธรรมอย่างตั้งใจที่สวนโมกข์เชียงราย ขากลับแวะร้านอาหารบ้านพลอย และวัดพระธาตุลำปางหลวง ช่วงเย็นภัตตาคารโกยีนครสวรรค์ พร้อมซื้อหาของฝากกลับบ้าน <br />
<br />
<span style="color: blue;">3. เที่ยวให้ถึงธรรมที่ภาคใต้ : สวนโมกขพลาราม ไชยา อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี </span><span style="color: blue;">ระหว่างวันที่ : วันเสาร์ที่ 24 – วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 </span><span style="color: blue;">ปฏิบัติธรรมอาสาฬหบูชา-เข้าพรรษาที่สวนโมกข์กับพระภาวนาโพธิคุณ (พระอาจารย์โพธิ์)</span><br />
เดินทางจากกรุงเทพมหานคร แวะนมัสการมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ สักการะศาลกรมหลวงชุมพร แล้วเติมพลังที่ร้านอาหารอ่าวบ้านกรูด เดินทางไปเรียนรู้ต่อที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไชยา ก่อนตั้งจิตศรัทธาเข้าร่วมปฏิบัติธรรมที่สวนโมกข์จนครบวันลา พาไปแวะซื้อของฝากที่สวนนายดำ นำชมพระตำหนักกรมหลวงชุมพร ต่อด้วยนมัสการรูปหล่อหลวงปู่ทวดและชมสถานที่ปฎิบัติธรรมเขาสันติที่หัวหิน <br />
<br />
<br />
<span style="color: blue;">4. เที่ยวไทยให้ถึงธรรมที่ภาคตะวันออก : มฤคทายวัน วัดคลองบางบ่อ ต.พลงตาเอี่ยม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง </span><span style="color: blue;">ระหว่างวันที่ : วันพฤหัสบดีที่ 12 – วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม 2553 </span><span style="color: blue;">ทำบุญใดในวันแม่ ไม่ได้บุญเท่าปฏิบัติธรรมกับ พระมหาวีระชัย ชยวีโร </span><br />
เดินทางจากกรุงเทพมหานครถึงศรีราชาพาท่านสู่เกาะลอยไปไหว้พระ พร้อมชมบรรยากาศยามเช้าชายฝั่งทะเลตะวันออก จากนั้นลงเรือสู่เกาะสีชังไหว้พระเขาใหญ่ ชมพระราชวังเก่าสมัยร.5 แล้วเดินทางต่อไปสักการะพระพุทธบาทจำลอง พระเจดีย์ใหญ่ พระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ และเมื่อเจริญใจได้ศรัทธาก็ปาวารณาตัวตั้งมั่นปฏิบัติธรรมจนครบวัน แล้วเดินทางกลับมา แวะตลาดบ้านเพและตลาดหนองมนเพื่อซื้อของฝากกลับบ้าน<br />
<br />
<br />
<span style="color: blue;">5. เที่ยวไทยให้ถึงธรรมที่ภาคกลางและภาคตะวันออก : วัดป่าสุญญตา ต.หนองตาแต้ม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ </span><span style="color: blue;">ระหว่างวันที่ : วันศุกร์ที่ 24 – วันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน 2553 </span><span style="color: blue;">ทำบุญปฏิบัติธรรมในวันสารทเดือนสิบ ยังสถานที่ปฏิบัติขึ้นชื่อ กับพระอาจารย์คัมภีรญาณ อภิปุญโญ </span><br />
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ แวะที่ท่าฉลอมเสน่ห์ริมฝั่งน้ำท่าจีน นมัสการหลวงปู่แก้ว ชมโบสถ์รังนกและธรรมชาติปากน้ำท่าจีน และไปต่อที่ดอนหอยหลอด สักการะศาลกรมหลวงชุมพร ทัศนศึกษาชุมชนชาวมอญที่มีกาลาแมขึ้นชื่อ จากนั้นเข้ารายงานตัวปฏิบัติธรรมด้วยศรัทธาที่วัดป่าสุญญตาราม เมื่อจบคอร์สก่อนกลับบ้านเข้าชมพระราชนิเวศมฤคทายวัน พระราชวังฤดูร้อน ร.6 ต่อด้วยนมัสการหลวงพ่อบ้านแหลม และพาชมตลาดน้ำอัมพวาในยามเย็น เพื่อซื้อของฝากกลับบ้าน<br />
สนใจสำรองที่นั่งได้ที่ บริษัทหนุ่มสาวทัวร์ โทร. 0 2246 5659 และ บริษัทธรรมจารี แอนด์ ซีซี ทัวร์ โทร. 0 2591 1060 <br />
<br />
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.dhamma4u.com/index.php/component/content/article/43-2009-02-16-06-19-41/734-2010-04-01-04-59-12.html หรือโทรสายด่วน ททท. 1672 และหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ โทร. 0 2305 9589 <br />
<br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjcbHAXhet2q3h8ex1geJahyXuf_WWfzL-StfMO_stCWoA5u1kwQcqJofQ-2_w2_K1RxoHk-mFUxO2Rl0zeasHCZQ8GQLVzRgJFy-ZLBYh-Qw4k5GB1OKdxRpgUFP38VqqEGTX5PlAH_itF/s1600/teawthai2.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" gu="true" height="30" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjcbHAXhet2q3h8ex1geJahyXuf_WWfzL-StfMO_stCWoA5u1kwQcqJofQ-2_w2_K1RxoHk-mFUxO2Rl0zeasHCZQ8GQLVzRgJFy-ZLBYh-Qw4k5GB1OKdxRpgUFP38VqqEGTX5PlAH_itF/s400/teawthai2.jpg" width="400" /></a></div>kannikar_011http://www.blogger.com/profile/11082927599028624968noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5293613472113265784.post-32169170984443349702010-05-17T21:03:00.002+07:002010-05-17T21:04:57.943+07:00กลับมาอีกครั้ง โปรโมชั่น "ตั๋ว 0 บาท" จากแอร์เอเชีย<div style="text-align: center;"><span style="background-color: red; color: white;">แอร์เอเชียส่ง "ตั๋ว 0 บาท" 1 ล้านที่นั่ง </span><span style="background-color: red;"><br />
</span><br />
<div style="text-align: center;"><span style="background-color: red; color: white;">ปลุกกระแสท่องเที่ยว สวนทางวิกฤตการเมือง</span> </div> <br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgjD5FDV9RQb5yBiK-SozfLi6hHVgboHBD3kgpl6SmPJinEX-dr1_acTLk0GTnv-EGvL9YptlN5W8GE1SWrc-ZfbfIqGldthq5Ge68sP8qvZ9O9O2F3myOBrFDR0XtYwIkM4Wvp_KZHj6wL/s1600/5364-0.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgjD5FDV9RQb5yBiK-SozfLi6hHVgboHBD3kgpl6SmPJinEX-dr1_acTLk0GTnv-EGvL9YptlN5W8GE1SWrc-ZfbfIqGldthq5Ge68sP8qvZ9O9O2F3myOBrFDR0XtYwIkM4Wvp_KZHj6wL/s320/5364-0.jpg" wt="true" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br />
</div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br />
</div><div style="text-align: left;">แอร์เอเชีย สายการบินราคาประหยัดที่เป็นมิตรคนไทย สร้างความสุข และสร้างสีสันให้กับตลาดการท่องเที่ยวไทยและภูมิภาคเอเชีย ด้วยโปรโมชั่น "Free Seats" ที่ทุกคนรอคอย จำนวน 1 ล้านที่นั่ง สู่ 130 เส้นทางบิน รวมกว่า 20 ประเทศ สะเทือนวงการอีกครั้ง หวังพลิกฟื้นบรรยากาศท่องเที่ยวไทยให้ครึกครื้น สำรองที่นั่งได้ที่ www.airasia.com ตั้งแต่ 18-23 พ.ค.นี้เท่านั้น!! เพื่อท่องเที่ยวแบบสบายกระเป๋า ตั้งแต่ 3 ม.ค. - 8 พ.ค. 2554</div><div style="text-align: left;"><br />
</div><div style="text-align: left;">ทั้งนี้ โปรโมชั่น "0 บาท" (สำหรับเที่ยวบินที่ออกจากประเทศไทย เส้นทางภายในประเทศ รวมค่าภาษีสนามบินเเละอื่นๆ เเล้ว ราคารวม 207 บาท/เที่ยว เส้นทางระหว่างประเทศ ราคารวม 800 บาท/เที่ยว) จำนวน 1 ล้านที่นั่งนั้น เปิดให้สำรองที่นั่งตั้งแต่18-23 พ.ค.นี้ เพื่อท่องเที่ยวต้นปีในวันที่ 3 ม.ค.- 8 พ.ค. ศกหน้า โดยมีเส้นทางบินในประเทศและระหว่างประเทศหลากหลายให้เลือกใช้บริการ ทั้งฐานการบินกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) เเละภูเก็ต </div><div style="text-align: left;"><br />
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายการบินแอร์เอเชีย กรุณาเยี่ยมชมเว็ปไซต์ www.airasia.com</div><br />
<br />
<br />
</div><span style="color: white;"></span>kannikar_011http://www.blogger.com/profile/11082927599028624968noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5293613472113265784.post-3766225271050369242010-05-13T02:14:00.001+07:002010-05-13T02:15:55.070+07:00สลด เครื่องบินจากแอฟริกาตก สังเวยผู้โดยสาร 105 ศพ<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjiqtCcwgEVIplhAVd5C2fIoN14s0gqdh4lwbivlnrxF9irpM4MEyoivGyQVrfp5y7pyXq7wcF4Rxyyqi6g2mlcOJ8nT6E_Vba_HPTrQEQYn1rMHyGna9Uyqnuh7-WSCo4vhSscQjMaVASj/s1600/5-12-2010-5-10-19-PM-300x145.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="154" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjiqtCcwgEVIplhAVd5C2fIoN14s0gqdh4lwbivlnrxF9irpM4MEyoivGyQVrfp5y7pyXq7wcF4Rxyyqi6g2mlcOJ8nT6E_Vba_HPTrQEQYn1rMHyGna9Uyqnuh7-WSCo4vhSscQjMaVASj/s320/5-12-2010-5-10-19-PM-300x145.jpg" width="320" wt="true" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br />
</div>เมื่อเช้าวันที่ 12 พ.ค. 53 เกิดเหตุสลดขึ้นเมื่อเครื่องบินของสายการบิน แอฟริกิยาห์ แอร์เวย์ส ของแอฟริกาใต้ตก ขณะที่ลงจอดที่ กรุงทริโปลี ของประเทศลิเบีย จึงส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้ง 104 คน ส่วนอีก 1 คนซึ่งเป็นเด็กชายวัย 8 ขวบ ชาวเนเธอร์แลนด์รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์<br />
เจ้าหน้าที่ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ขณะที่เครื่องบินลงจอดก็เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงจนเครื่องบินแตกเป็นชิ้นๆ ซึ่งสาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด ทั้งๆ ที่สภาพอากาศก็ปกติดี นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบกล่องดำที่บันทึกข้อมูลการบิน เพื่อที่จะช่วยไขปริศนาเกี่ยวกับสาเหตุการตกในครั้งนี้ได้<br />
<br />
http://news.mthai.com/world-news/75932.htmlkannikar_011http://www.blogger.com/profile/11082927599028624968noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-5293613472113265784.post-74683914795536445422010-05-12T02:18:00.002+07:002010-05-12T02:21:35.513+07:00“หยิบหมอก หยอกดอกกระเจียว"<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiS3ESIS3KjNvQc2p93UvT1DsX_EJzdxTn47QlJ3oV5pgnyLLJM9aK-kSbiUj_V2X7W_9FG03jPy7Nqy76vD-hwztTPb7Fgs7JsNzBlgk7IjIir9W-sLheXjqSxTEv3BfrfbIbK57E1XqfZ/s320/sss.jpg" tt="true" /></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br />
</div><div style="text-align: center;"><span style="color: #274e13;">ททท. ขอเชิญทุกท่านร่วม “หยิบหมอก หยอกดอกกระเจียว”</span></div><div style="text-align: left;"><br />
<span style="color: #38761d;"> จังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครราชสีมา และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ขอเชิญทุกท่านร่วม “หยิบหมอก หยอกดอกกระเจียว” งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงามจังหวัดชัยภูมิ ประจำปี 2553 ในระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน - 31 สิงหาคม 2553 ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต และ อุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ</span></div><div style="text-align: left;"><br />
</div><div style="text-align: left;"><span style="color: #38761d;"> “งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม จังหวัดชัยภูมิ ประจำปี 2553” ที่จัดขึ้นตลอดเดือนมิถุนายน - เดือนสิงหาคม 2553 ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต และ อุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหวจังหวัดชัยภูมิ เป็นกิจกรรมที่จัดต้อนรับฤดูฝน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชนในท้องที่สามารถสร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยว และผู้ที่สนใจทั่วไปที่เดินทางมาเยือนดินแดนชัยภูมิเกิดความประทับใจอย่างไม่รู้ลืม</span></div><div style="text-align: left;"><span style="color: #38761d;"><br />
</span></div><div style="text-align: left;"><span style="color: #38761d;"> <span style="color: #cc0000;">กิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ</span> อาทิ ขบวนแห่กระเจียวคืนทุ่ง การแสดงดนตรีจากนักเรียนของอำเภอเทพสถิต การแข่งขันเดินเพื่อการกุศล การแข่งขันแรลลี่(โดยหอการค้าจังหวัดชัยภูมิ) การปีน - ไต่หน้าผา “ผาก่อ - รัก” ชมสวนหินงามป่าหินล้านปีที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติปั้นแต่งตามแต่จะสุดจินตนาการ การแสดง และจำหน่ายสินค้าที่มีชื่อเสียงของจังหวัดชัยภูมิ อีกทั้งทุ่งดอกกระเจียวสีขาว สีเขียวและสีชมพูอมม่วง น้ำตกไทรทอง และจุดชมวิวผาหำหดของอุทยานแห่งชาติไทรทอง ก็เป็นอีกสถานที่ที่รอการมาเยือนของนักท่องเที่ยวให้เดินทางท่องเที่ยวให้สนุก เติมความสุขให้กับชีวิตได้เป็นอย่างดี</span></div><div style="text-align: left;"><br />
<div style="text-align: left;"><span style="color: #38761d;">นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ </span></div><div style="text-align: left;"><span style="color: #38761d;">ประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิ โทรศัพท์ 0-4482-2502 </span></div><div style="text-align: left;"><span style="color: #38761d;">ศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยวองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ โทรศัพท์ 0-4481-1376 </span></div><div style="text-align: left;"><span style="color: #38761d;">ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยภูมิ โทรศัพท์ 0-4481-1218 </span></div><div style="text-align: left;"><span style="color: #38761d;">หอการค้าจังหวัดชัยภูมิ โทรศัพท์ 0-4481-1511 </span></div><div style="text-align: left;"><span style="color: #38761d;">ททท.สำนักงานนครราชสีมา โทรศัพท์ 0-4421-3666 / 0-4421-3030 </span><br />
<span style="color: #38761d;">ทุกวันในเวลาราชการ </span><span style="color: #38761d;">E – Mail : tatsima@tat.or.th</span></div><div style="text-align: left;"><span style="color: #38761d;"><br />
</span></div><div style="text-align: left;"><span style="color: #38761d;"><br />
</span></div><div style="text-align: left;"><br />
</div></div>kannikar_011http://www.blogger.com/profile/11082927599028624968noreply@blogger.com4tag:blogger.com,1999:blog-5293613472113265784.post-30045675186510632352010-05-12T02:08:00.002+07:002010-05-12T02:09:40.849+07:00พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ<div style="text-align: center;"><br />
<div style="text-align: center;"><strong></strong></div><strong>วันที่ : 13 พฤษภาคม 2553</strong> </div><div style="text-align: center;"><strong><br />
</strong></div><div style="text-align: center;"><strong>สถานที่ : บริเวณท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร</strong></div><br />
พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ เป็นพระราชพิธี 2 พิธีรวมกัน คือ พระราชพิธีพืชมงคลอันเป็นพิธีสงฆ์ อย่างหนึ่ง ซึ่งจะประกอบพระราชพิธีวันแรกในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม กับพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญอันเป็นพิธีพราหมณ์ อย่างหนึ่ง ซึ่งจะประกอบพระราชพิธีในวันรุ่งขึ้น ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjze7ukyQ2o9TiTAY3szUc4Ohll2QWH1BYZ2sZtGJyxoCIwTtnsu0SCMo8qmit2yAZKHSsVnAgWKah_AcEPlK61HN2bZTjttCkEOzPaHyKedAHiKR_6O_6-FxAZl6yx8jYoOQJdaDImX6JE/s1600/image004.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjze7ukyQ2o9TiTAY3szUc4Ohll2QWH1BYZ2sZtGJyxoCIwTtnsu0SCMo8qmit2yAZKHSsVnAgWKah_AcEPlK61HN2bZTjttCkEOzPaHyKedAHiKR_6O_6-FxAZl6yx8jYoOQJdaDImX6JE/s320/image004.jpg" tt="true" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br />
</div>พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ หรือเรียกสั้นๆ ว่า พิธีแรกนา เป็นพระราชพิธีที่มีมาแต่โบราณตั้งแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ซึ่งในสมัยกรุงสุโขทัยนั้น พระมหากษัตริย์ไม่ได้ลงมือไถนาเอง เป็นแต่เพียงเสด็จไปเป็นองค์ประธานในพระราชพิธีเท่านั้น<br />
ครั้นถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา พระมหากษัตริย์ไม่ได้เสด็จไปเป็นองค์ประธานเหมือนกับสมัยกรุงสุโขทัย แต่จะมอบอาญาสิทธิ์ให้โดยทรงทำเหมือนอย่างออกอำนาจจากกษัตริย์ และจะทรงจำศีลเงียบ 3 วัน ซึ่งวิธีนี้ได้ใช้ตลอดมาถึงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา<br />
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการประกอบพระราชพิธีนี้มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 แต่ผู้ทำการแรกนาเปลี่ยนเป็นเจ้าพระยาพหลเทพคู่กันกับการยืนชิงช้า แต่พอถึงรัชกาลที่ 3 ให้ถือว่าผู้ใดยืนชิงช้าผู้นั้นเป็นผู้แรกนาด้วย ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดมีพิธีสงฆ์เพิ่มขึ้นในพระราชพิธีต่าง ๆ ทุกพิธี ดังนั้น พระราชพิธีพืชมงคลจึงได้เริ่มมีขึ้นแต่บัดนั้นมา โดยได้จัดรวมกับพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และมีชื่อเรียกรวมกันว่า พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ<br />
<br />
พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเป็นพิธีการเพื่อความเป็นสิริมงคลและบำรุงขวัญเกษตรกร กำหนดจัดขึ้นในเดือนหกของทุกปี ซึ่งระยะนี้เป็นระยะเหมาะสมที่จะเริ่มต้นการทำนาอันเป็นอาชีพหลักของประชาชนคนไทย แต่ไม่ได้กำหนดวันที่แน่นอนไว้เหมือนกับวันพระราชพิธีอื่น ๆ ส่วนจะเป็นวันใดในเดือนหกหรือเดือนพฤษภาคมที่มีฤกษ์ยามที่เหมาะสมต้องตามประเพณีก็ให้จัดขึ้นในวันนั้น<br />
<br />
การจัดงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ได้กระทำเต็มรูปบูรพประเพณีครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ.2479 แล้วก็ว่างเว้นไปจนกระทั่งในปี พ.ศ. 2503คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ฟื้นฟูพระราชประเพณีนี้ขึ้นใหม่และได้กระทำติดต่อกันมาทุกปีจนถึงปัจจุบันด้วยเห็นว่าเป็นการรักษาพระราชประเพณีอันดีงาม มีผลในการบำรุงขวัญและจิตใจของคนไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์พระประมุขปัจจุบันทรงมีพระราชกระแสให้ปรับปรุงพิธีการบางอย่างให้เหมาะสมกับยุคสมัย และเสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพระราชพิธีนี้ทุกปีสืบมามิได้ขาด<br />
<br />
<strong>กิจกรรมในงาน :</strong> พระราชพิธีอันสืบทอดมาช้านาน เพื่อส่งเสริมสิริมงคลแก่พืชพรรณ ธัญญาหาร บำรุงขวัญเกษตรกร และเพื่อทำนายถึงสภาพดินฟ้า อากาศและผลผลิตที่จะงอกเงยในฤดูเก็บเกี่ยวที่กำลังจะเริ่มขึ้นkannikar_011http://www.blogger.com/profile/11082927599028624968noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-5293613472113265784.post-74039939913895104432010-05-12T01:20:00.004+07:002010-05-12T01:27:16.839+07:00ชมกระทิงฝูง กลางป่าดงพญาเย็น จ.นครราชสีมา<div style="text-align: center;"><br />
</div><div style="text-align: center;"><br />
</div><div style="text-align: center;"><span style="color: purple;">พฤษภาคม ชมกระทิงฝูง กลางป่าดงพญาเย็น จ.นครราชสีมา</span><br />
<span style="color: purple;"></span><br />
<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgpwAF3pTS7lwvSYSkLvSDjThmw-4ObVp5iyvWfixOd2i1fecHQObGMZCNeIOPyBQGLl2Yn0EPYI8jnTydIY_QwTwmUfFrkNhyphenhyphenhNf0MVv5QyMZJCfB8udAVTFRdplT5zinsiciKFEu9FnQY/s1600/5235-attachment.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="135" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgpwAF3pTS7lwvSYSkLvSDjThmw-4ObVp5iyvWfixOd2i1fecHQObGMZCNeIOPyBQGLl2Yn0EPYI8jnTydIY_QwTwmUfFrkNhyphenhyphenhNf0MVv5QyMZJCfB8udAVTFRdplT5zinsiciKFEu9FnQY/s400/5235-attachment.jpg" tt="true" width="400" /></a></div><br />
<div style="text-align: center;"><span style="color: #674ea7;">แหล่งเดียวในเมืองไทยเห็นวัวกระทิงได้ง่ายสุด</span></div><div style="text-align: center;"><span style="color: #674ea7;"><br />
</span></div><div style="text-align: center;"><span style="color: #674ea7;">คือที่กลุ่มป่าดงพญาเย็นรอยต่อ 5 จังหวัด </span></div><div style="text-align: center;"><span style="color: #674ea7;"><br />
</span></div><div style="text-align: center;"><span style="color: #674ea7;">นครราชสีมา นครนายก สระบุรี</span></div><div style="text-align: center;"><span style="color: #674ea7;"><br />
</span></div><div style="text-align: center;"><span style="color: #674ea7;">ปราจีนบุรี และสระแก้ว</span></div><div style="text-align: center;"><br />
</div><div style="text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiIZw9CeCoucJLvk6nF0xkYLGC9rPrdR4HB9m6bh-_RCUBNdcqoz8E8wocYT8RUxnvzaYnR2-kPrVG6IwDDqXkghq84qVQPrakQR2Pm6MtqOdEXGA0NPKrSp59ERDWgUa3_SXhKyy5Z_fV7/s1600/5236-attachment.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiIZw9CeCoucJLvk6nF0xkYLGC9rPrdR4HB9m6bh-_RCUBNdcqoz8E8wocYT8RUxnvzaYnR2-kPrVG6IwDDqXkghq84qVQPrakQR2Pm6MtqOdEXGA0NPKrSp59ERDWgUa3_SXhKyy5Z_fV7/s320/5236-attachment.jpg" tt="true" /></a></div><br />
<span style="color: #674ea7;">ป่ามรดกโลกผืนล่าสุดนี้ คือกลุ่มป่าดงพยาเย็นในอดีต ซึ่งวันนี้กลายมาเป็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทับลาน ปางสีดา ตาพระยาและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ หลังจากฝนแรกในเดือนเมษายนผ่านไปหญ้าอ่อนก็จะแตกใบ นี่คือวันเวลาที่ดีที่สุด ที่กระทิงจะออกมาหากินตามทุ่งหญ้า โป่งสัตว์และแหล่งน้ำซับ แหล่งดูกระทิงวันนี้ที่เห็นง่ายที่สุด คือ คลองปลากั้ง เขาแผงม้า จังหวัดนครราชสีมา และตาพระยา จังหวัดสระแก้ว</span><br />
<br />
<span style="color: #674ea7;">ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: 17.00 น. ถึงพลบค่ำ</span><br />
<span style="color: #674ea7;">ฤดูกาลที่ดีที่สุด: ต้นฤดูฝนราวเดือนพฤษภาคม</span><br />
<span style="color: #674ea7;">จุดชมวิวิที่ดีที่สุด: จุดชมกระทิงคลองปลากั้ง เขาแผงม้า และตาพระยา</span><br />
<span style="color: #674ea7;"><br />
</span><br />
<span style="color: #674ea7;">เส้นทางการเดินทาง จาก อ.ปากช่องใช้ทางหลวงหมายเลข 2090 บริเวณหน้าด่านขึ้นเขาใหญ่มีทางแยกซ้ายมือไป อ.วังน้ำเขียว ไปต่ออีกราว 45 กิโลเมตร ถึงหน่วยพิทักษ์ป่าคลองปลากั้ง</span><br />
<span style="color: #674ea7;"></span><span style="color: #674ea7;"><br />
</span><span style="color: #674ea7;">สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม</span><br />
<span style="color: #674ea7;"></span><br />
<span style="color: #674ea7;">ติดต่อที่ ททท.สำนักงานนครราชสีมา โทร. 044 213 030, 044 213 666</span><br />
<span style="color: #674ea7;">ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย</span>kannikar_011http://www.blogger.com/profile/11082927599028624968noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5293613472113265784.post-9453593763334067902010-05-11T03:52:00.002+07:002010-05-11T03:52:44.924+07:00การท่องเที่ยวฮ่องกงเปิดตัวแคมเปญ “Festive Hong Kong 2010”<div style="text-align: center;"><br />
<br />
<span style="color: #bf9000;">การท่องเที่ยวฮ่องกงเปิดตัวแคมเปญ “Festive Hong Kong 2010” </span></div><div style="text-align: center;"><span style="color: #bf9000;">ชูธีมงานเทศกาลผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นและตะวันตก</span></div><br />
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi7eAVOBwTervUUpynLJjOLbXF3tYweNpjHoK87-8wN6DiS241yiHhIa92rpgvEpQQZcctXCpeqVvSKf36M4fIu9MPphfwEIPjokv4YCTF7O0nYt38VTRpeY1xG0gSTq3gXYeKVVlzkV9vJ/s1600/iqc48a96ba09a591caa1e7f3c5e26c7bbf.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi7eAVOBwTervUUpynLJjOLbXF3tYweNpjHoK87-8wN6DiS241yiHhIa92rpgvEpQQZcctXCpeqVvSKf36M4fIu9MPphfwEIPjokv4YCTF7O0nYt38VTRpeY1xG0gSTq3gXYeKVVlzkV9vJ/s320/iqc48a96ba09a591caa1e7f3c5e26c7bbf.jpg" tt="true" /></a></div><div class="separator" style="clear: both; text-align: center;"><br />
</div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="color: #bf9000;">การท่องเที่ยวฮ่องกงเปิดตัวแคมเปญการตลาดประจำปี 2553 ด้วยธีม “Festive Hong Kong 2010” ชูการท่องเที่ยวแนวเทศกาลที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมท้องถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกงกับสีสันแห่งตะวันตก ด้วยกิจกรรมอีเวนท์คับคั่งตลอดปี ภายใต้ 6 ธีมเทศกาลให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้สัมผัสทุกแง่มุมของวัฒนธรรมประเพณีในฮ่องกง</span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="color: #bf9000;">แคมเปญ “Festive Hong Kong 2010” นี้ มุ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่กำลังมองหาประสบการณ์ท่องเที่ยวมิติใหม่ที่ให้ความสมจริง โปรโมทความน่าดึงดูดใจของวัฒนธรรมฮ่องกงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเพื่อเป็นเวทีธุรกิจของภาคการท่องเที่ยวในการจัดแพคเกจหรือสินค้าใหม่ๆแก่นักท่องเที่ยว โดยแคมเปญนี้แบ่งออกเป็น 6 ช่วงยาวตลอดปี ดังนี้</span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="color: #bf9000;"></span><span style="color: #bf9000;"><br />
</span><span style="color: #bf9000;">Cultural Celebrations ในเดือนพฤษภาคม ศกนี้ กับสี่งานเทศกาลท้องถิ่นอันมีชีวิตชีวาของฮ่องกง ที่แสดงถึงความเลื่อมใสและศรัทธาต่อเทพเจ้าท้องถิ่นและพุทธศาสนาของชาวฮ่องกง ได้แก่ เทศกาลซาลาเปาบนเกาะเชิงเชา (18-22 พฤษภาคม) เทศกาลฉลองวันเกิดเจ้าแม่ทินโห่ว (6 พฤษภาคม) เทศกาลฉลองวันเกิดเทพทัมกุง (21 พฤษภาคม) และวันฉลองคล้ายวันประสูติของพระพุทธเจ้า (21 พฤษภาคม)</span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="color: #bf9000;"><br />
</span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="color: #bf9000;">Hong Kong Summer Spectacular ระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม งานเทศกาลยิ่งใหญ่ประจำปีที่ทุกคนรอคอย ทั้งการลดราคาสินค้าทั่วฮ่องกง การลิ้มรสชาติอาหารเมนูเด็ด และงานเทศกาลแข่งเรือยาวนานาชาติ Hong Kong Dragon Boat Carnival (23-25 กรกฎาคม) อันน่าตื่นตาตื่นใจในอ่าววิคตอเรีย รวมไปถึงความบันเทิงและการแสดงดนตรีแบบสดๆที่จัดให้ชมที่บริเวณ Tsim Sha Tsui Promenade ตลอดระยะเวลาสามวัน</span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="color: #bf9000;"><br />
</span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="color: #bf9000;">Hong Kong Halloween Treats เดือนกันยายนถึงตุลาคม สนุกกับงานฉลองเทศกาลฮัลโลวีนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียกับกิจกรรมสุดหรรษาจากธีมปาร์กชื่อดังอย่างฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ฮ่องกงโอเชี่ยนปาร์ก พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งมาดามทุสโซ และอะเวนิวออฟสตาร์ กับกิจกรรมสุดพิเศษที่จะทำให้คุณสนุกจนขนหัวลุก รวมไปถึงสตรีทปาร์ตี้โต้รุ่งที่โซโหและลานไควฟอง ห้ามพลาดค่ำคืนแสนโรแมนติกที่เต็มไปด้วยโคมไฟหลากสีและความงดงามของพระจันทร์เต็มดวงในคืนเทศกาลไหว้พระจันทร์ (22 กันยายน) พร้อมการจัดแสดงโคมไฟและงานเชิดสิงโตใน Tai Hang ย่านคอสเวย์เบย์</span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="color: #bf9000;"><br />
</span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="color: #bf9000;">Wine and Dine Month เดือนพฤศจิกายน เพื่อให้สมกับเป็นเมืองหลวงแห่งอาหารของเอเชีย ปีนี้ฮ่องกงเตรียมจัดเทศกาล Wine and Dine Festival (28-31 ตุลาคม) ขึ้นที่ Kowloon Promenade ซึ่งจะคับคั่งไปด้วยบูธอาหารมากมายจากภัตตาคารและโรงแรมชื่อดัง รวมถึงบูธไวน์ที่ยกเอาไวน์รสเลิศจากทั่วโลกทั้งฝรั่งเศส อิตาลี และกลุ่มไวน์โลกใหม่ อาทิ ออสเตรเลีย และนิวเซีแลนด์ ภายใต้การขับกล่อมของวงดนตรีแจ๊ซ</span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="color: #bf9000;"><br />
</span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="color: #bf9000;">Hong Kong WinterFest ในเดือนธันวาคม ร่วมฉลองสายลมหนาวกับเทศกาลแห่งความสุขในช่วงสิ้นปีอย่างคริสต์มาสและวันขึ้นปีใหม่ ที่ตึกระฟ้าในฮ่องกงจะถูกประดับด้วยแสงไฟหลากสีเพื่อฉลองโอกาสพิเศษนี้ พร้อมส่วนลดสมนาคุณพิเศษสูงสุดถึง 80% จากร้านค้าและร้านอาหารมากมายให้คุณได้ฉลองส่งท้ายปีแบบเต็มที่ และอย่าพลาดชมงานฉลองนิวเยียร์เคาท์ดาวน์อันเป็นเอกลักษณ์ของฮ่องกงกับการจุดพลุไฟและการแสดงแสงสีเสียงบนตึก Two ifc ที่สูงที่สุดและตึกระฟ้าอื่นๆในฮ่องกง</span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="color: #bf9000;"><br />
</span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="color: #bf9000;">Chinese New Year Celebrations เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2554 พบกับเทศกาลเฉลิมฉลองตรุษจีนอันครึกครื้น อาทิ ขบวนพาเหรดนานาชาติยามค่ำคืนที่ทอดยาวตั้งแต่อ่าววิคตอเรียลัดเลาะไปยังจิมซาโจ่ย ให้คุณได้ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงของศิลปินและคณะการแสดงนานาชาติ ทั้งการแห่มังกรและเชิดสิงโต การแสดงพลุไฟสุดตระการตา สัมผัสบรรยากาศงานเฉลิมฉลองตรุษจีนของชาวฮ่องกงกับด้วยการช้อปปิ้งในตลาดท้องถิ่นเพื่อจับจ่ายซื้อของที่เป็นสิริมงคล พร้อมนมัสการพระที่วัดหวังต้าเซียน</span></div><div style="border-bottom: medium none; border-left: medium none; border-right: medium none; border-top: medium none;"><span style="color: #bf9000;"><br />
</span></div><span style="color: #bf9000;">สัมผัสเทศกาลอันมีชีวิตชีวาของฮ่องกงที่ผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นกับสีสันแห่งตะวันตกไว้ได้อย่างลงตัวตลอดทั้งปีนี้กับแคมเปญ “FESTIVE HONG KONG 2010” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวฮ่องกง โทร. 02 233 4329-30 หรือที่เวปไซต์ <a href="http://www.discoverhongkong.com/festivehk2010">www.discoverhongkong.com/festivehk2010</a></span><span style="color: #bf9000;"><br />
</span><br />
<span style="color: #bf9000;"><br />
</span><br />
<span style="color: #bf9000;">ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อคุณวันดี เลิศสุพงศ์กิจ โทร. 02233 4329/30 แฟกซ์ 02236 8030</span><br />
<span style="color: #bf9000;"><br />
</span><br />
<span style="color: #bf9000;">อีเมล์ pr@francomasia.com หรือ www.DiscoverHongKong.com</span>kannikar_011http://www.blogger.com/profile/11082927599028624968noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5293613472113265784.post-59520397239527961072010-05-11T02:37:00.005+07:002010-05-11T02:52:15.412+07:00ถ้ำเกลือ ที่แรกในเอเชีย<div align="center"><strong><span style="color:#993399;"></span></strong> </div><div align="center"><strong><span style="color:#993399;"></span></strong> </div><div align="center"><strong><span style="font-size:130%;color:#993399;">ภูมิแพ้ หมดห่วง ถ้ำเกลือเพื่อสุขภาพช่วยได้ใจกลางกรุงเทพ ที่แรกในเอเชีย </span></strong></div><br /><div align="center"><br /><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgGd2sNOF6YLaH_KCeo5lLtn2sxaYuVXU3EwI1rxDbVbxQzXJkIo62VSfr0oY5Sf1e1otKEjXLSLVqlTUJ1QpgH-3jiZefcRKCCt1dHswjV56cVIt-o7fNXXtyymKNr1IwiQIkA8tu2_C1g/s1600/5222-salt_cave_bangkok_at_the_manor.jpg"><img style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 400px; DISPLAY: block; HEIGHT: 267px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5469729717676062818" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgGd2sNOF6YLaH_KCeo5lLtn2sxaYuVXU3EwI1rxDbVbxQzXJkIo62VSfr0oY5Sf1e1otKEjXLSLVqlTUJ1QpgH-3jiZefcRKCCt1dHswjV56cVIt-o7fNXXtyymKNr1IwiQIkA8tu2_C1g/s400/5222-salt_cave_bangkok_at_the_manor.jpg" /></a><br /></div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiNoDXI97sd4K0kVFJpFOjbKAFfv84kYaroNgvJhkf1VvZ1rdeL6sPTfHdNod_jlayrSVWlc4G9f8JGakFC9qaPyFoUJRdd1f1-D6BD2YMjZxW2pxURp-t0Owm73gVJjkl4kr79ut8Amfot/s1600/5221-salt_cave_bangkok_at_the_manor.jpg"><img style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 400px; DISPLAY: block; HEIGHT: 267px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5469729696262709474" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiNoDXI97sd4K0kVFJpFOjbKAFfv84kYaroNgvJhkf1VvZ1rdeL6sPTfHdNod_jlayrSVWlc4G9f8JGakFC9qaPyFoUJRdd1f1-D6BD2YMjZxW2pxURp-t0Owm73gVJjkl4kr79ut8Amfot/s400/5221-salt_cave_bangkok_at_the_manor.jpg" /></a><br /><div align="left"><strong><br /></strong><span style="color:#993399;">Salt Cave Bangkok at The Manor 39 หรือถ้ำเกลือเพื่อสุขภาพ แห่งแรกในประเทศไทย ในซอยสุขุมวิท 39 และแห่งแรกในเอเชีย อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับ คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ อาทิเช่น หอบหืด, หลอดเลือดอักเสบเรื้อรัง, หลอดลมตีบ, ถุงลมโป่งพอง, อาการไอที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ทั้งสูบโดยตรงและได้รับควันจากผู้อื่น, คออักเสบ, ไซนัสอักเสบ, อาการแพ้ฝุ่นและละอองเกสร, อาการเครียดและอ่อนเพลียเรื้อรัง, หายใจขาดลม แน่นหน้าอก ฯลฯจากแนวความคิดของผู้บริหาร The Manor 39 ที่เล็งเห็นถึงคุณสมบัติของเกลือ “Pharma Salt “ ที่ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตยา ในเรื่องของการฆ่าเชื้อและลดการอักเสบ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และส่งผลดีต่อผู้ที่มีปัญหาทางด้านระบบทางเดินหายใจ อีกทั้งข้อมูลจากการวิจัยของต่างประเทศผ่านทาง CNN และ BBC ในเรื่องของถ้ำเกลือเพื่อสุขภาพที่เกิดขึ้นแล้ว ในรัสเซีย , โปแลนด์ , อังกฤษ ประกอบกับแหล่งกำเนิดเหมืองเกลือ ในประเทศโปแลนด์ ที่วิจัยมาแล้วว่า ผู้ที่ทำงานในเหมืองเกลือและได้รับอณูเกลือนั้นไม่เป็นโรคภูมิแพ้ หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ<br /><br />ถ้ำเกลือเพื่อสุขภาพ “Salt Cave” จึงเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ และโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ สามารถเข้าไปใช้บริการในถ้ำเกลือ แล้วสูดไอเกลือ “Pharma Salt”ที่มีอณูเกลืออยู่ภายในถ้ำ เพียงแค่ 45 นาที เสมือนเราไปนั่งอยู่ริมทะเล 3 วัน และภายในถ้ำเกลือนอกจากอณูเกลือที่ลอยอยู่ในบรรยากาศแล้ว ส่วนผนัง และพื้น ก็เต็มไปด้วยเกลือสินเถาว์บริสุทธิ์ ส่งผลให้มีประจุลบช่วยในเรื่องการดูดซึมแบคทีเรียหรือเชื้อโรคที่มีอยู่ในระบบทางเดินหายใจและประจุลบยังส่ง ผลช่วยทำให้ผ่อนคลายอีกด้วย “Pharma Salt” เป็นเกลือแห้งที่มีความบริสุทธิ์ 100 %ไม่มีส่วนผสมของไอโอดีนและแป้งมัน ซึ่ง ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตยา ผู้ที่ใช้บริการจะรู้สึกดีขึ้นได้ตั้งแต่ครั้งแรกและจะรู้สึกอาการของโรคภูมิแพ้ หรือโรคระบบทางเดินหายใจทุเลาต้องใช้บริการอย่างน้อย 5 ครั้งขึ้นไป<br /><br />สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร 02 662 5519 ทุกวัน หรือwww.saltcavebangkok.com</span></div>kannikar_011http://www.blogger.com/profile/11082927599028624968noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-5293613472113265784.post-33781645745328999132010-05-11T01:04:00.013+07:002010-05-11T01:50:53.156+07:00เยือนชุมชนบ้านสิงห์ท่า ค้นหาอดีตเมืองยโสธร<div align="center"><strong><span style="color:#330099;"></span></strong></div><div align="center"><strong><span style="color:#330099;"></span></strong></div><div align="center"><strong><span style="color:#330099;"></span></strong></div><div align="center"><strong><span style="color:#330099;"></span></strong></div><div align="center"><strong><span style="color:#330099;">เยือนชุมชนบ้านสิงห์ท่า ค้นหาอดีตเมืองยโสธร</span></strong><br /><br /></div><div align="center"><img style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 238px; DISPLAY: block; HEIGHT: 400px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5469704643611109490" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiCsw5zRNCz0ce0XSblut3vPBb8w7Ye5sCg-jzEkssxnsWOw2Y14NGXOBoxL3GVLuMGczdNluBCxyjBFFWTct1ck1AHo2VXPwf0jYii16MqVzUsz8TAbPjVncR-ZRzPrZ4Rxy4rjpkVrp9G/s400/1.jpg" /></div><br /><br /><div align="left"><span style="color:#cc0000;">ยโสธร </span>เมืองเล็กที่งดงามด้วยวัฒนธรรมและงานบุญบั้งไฟ พร้อมอาหารเป็นเอกลักษณ์ ทั้งปลาส้มและลอดช่องยโสธร อีกทั้งยังมีเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ย่านบ้านสิงห์ท่า ใครได้มายโสธรแล้วไม่ไปเที่ยวชม ก็เหมือนมาไม่ถึง...<br />ในอดีตยโสธรมีความเป็นมาตั้งแต่ยุคทวารวดี โดยมีบันทึกในพงศาวดารกล่าวว่า <span style="color:#cc0000;">พระเจ้าราชวงศา (พระวอ)</span> เสนาบดีเก่าแห่งเมืองเวียงจันทน์ ท้าวหน้า ท้าวคำผง ท้าวทิตพรหม และท้ามมุม พร้อมด้วยไพร่พลอพยพไปอาศัยกับเจ้านครจำปาศักดิ์ เมื่อมาถึงดงผีสิงห์ เห็นทำเลที่ตั้งเหมาะสมแก่การตั้งถิ่นฐานจึงสร้างเมืองขึ้นที่<span style="color:#cc0000;">บ้านสิงห์ท่า (เมืองสิงห์ท่า)</span> และยกฐานะเป็นเมืองยโสธรในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ยโสธรถูกรวมเข้ากับกองหัวเมืองลาวฝ่ายตะวันออกเฉียงเหนือมีเมืองอุบลราชธานี เป็นเมืองเอก เรียกว่า มณฑลลาวกาว ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี พ.ศ. 2456 ยโสธรกลายเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดอยบราชธานี และในปี พ.ศ. 2515 จึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัดลำดับที่ 71 ของประเทศไทย<br /></div><div align="left"><br /><span style="font-size:130%;color:#cc0000;">เที่ยวชมเมือง</span> </div><div align="left">จากความเป็นมาของเมืองนี้ ปัจจุบันยังคงเห็นรูปรอยความเจริญได้ที่ชุมชนบ้านสิงห์ท่า ชาวบ้านในชุมชนล้วนถ้อยทีถ้อยอาศัย อยุ่อย่างเรียบง่ายและสงบ มี ตึกแถวโบราณ งดงามด้วยสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส ยุคสมัยเดียวกับที่จังหวัดภูเก็ต ถนนรอบบริเวณย่านสิงห์ท่า เป็นทางลัดเลาะเชื่อมต่อถึงกันระหว่างชุมชน ตลาด โรงเรียน รวมถึงวัด ซึ่งเป็นศูนย์รวมใจของชาวพุทธทั้งหลาย ยังมี ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สร้างด้วยสถาปัตยกรรมจีนดูตระการตา ในย่านนี้เป็นแหล่งทำปลาส้มและลอดช่องยโสธร ของฝากชื่อดังที่ไม่ควรดลาดชิมอีกด้วย<br /><br /></div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgiuaURC_hZTWHVzctpTYbvbeG2Zxi1g3ihECQE6sSW5b-uB48f0-y_04StVw4lrvwvpUOSxPUGuoOnLVAy6PJGXY728SYmUbZ17ZgR4jzu5j0z-gg4SYdpN4fVDkjC_yFxK7DpjLkCvbiu/s1600/5207-attachment.jpg"><img style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 320px; DISPLAY: block; HEIGHT: 180px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5469707486699286322" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgiuaURC_hZTWHVzctpTYbvbeG2Zxi1g3ihECQE6sSW5b-uB48f0-y_04StVw4lrvwvpUOSxPUGuoOnLVAy6PJGXY728SYmUbZ17ZgR4jzu5j0z-gg4SYdpN4fVDkjC_yFxK7DpjLkCvbiu/s320/5207-attachment.jpg" /></a><br /><span style="color:#990000;">วัดมหาธาตุ</span> ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบุษยรัตน์ (พระแก้วหยดน้ำค้าง) พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสน เป็นพระคู่เมืองของชาวยโสธรมายาวนาน หอไตรโบราณกลางสระน้ำ เป็นที่เก็บคัมภีร์ใบลานเก่าแก่ ที่สำคัญวัดมหาธานุเป็นที่ตั้งของพระธาตุยโสธร หรือพระธาตุอานนท์ บรรจุอัฐิธาตุของพระอานนท์ รูปทรงเจดีย์เป็นสี่เหลี่ยมศิลปะอิทธิพลลาว สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาถึงต้นสมัยรัตนโกสินทร์<br /><br /><p><img style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 288px; DISPLAY: block; HEIGHT: 300px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5469708462191606418" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjIRFYILMFEeKTpxKryT_3_z-VuQEGWtK4Fq0uM5WA7oPidiEU6K0fR0UFmBd8ekvitFDBEe9Orb_pDSDCk4V1UkqMhwgNYMyPbv40Zrq0Kgz1YHShlXrNF6gT8Rz0S_O_Orob9bX7zCc1E/s320/5210-attachment.jpg" /><br /><span style="color:#990000;">วัดสิงห์ท่า</span> ประวัติของการก่อบ้านสร้างเมืองยโสธร เริ่มขึ้นที่วัดสิงห์ท่าแห่งนี้ โดยในยุคแรกที่สร้างบ้านสิงห์ท่าได้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้นด้วย แต่ไม่มีคณะสงฆ์ ในยุคต่อมาได้ขุดค้นพบสิงห์หินและพระพุทธรูปใหญ่อยู่ในดง (บริเวณวัดสิงห์ท่าปัจจุบัน) จึงสถาปนาวัดแห่งนี้ขึ้นเป็นวัดสิงห์ท่า ปัจจุบันพระพุทธรูปโบราณปางมารวิชัย ก่อด้วยอิฐฉาบปูนลงรักปิดทองขนาดหน้าตักกว้าง 3 เมตรรูปนี้ ยังเป็นพระประธานของวัดสิงห์ท่า ซึ่งชาวยโสธรจัดให้มีการสรงน้ำหลังสงกรานต์เป็นประจำทุกปี <p><br /></p><p><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjKHBZTf3_uDbn2Fs25AEhL7p6qoXPM6qzLbe_tL2w9QQbz2vMfTTs8DE9YolPM0G_BbYataoV0wpkjr9B74fAELUE_csEUUAyCL3_E1WvaUwkkP_cXayaCg0Hic37oBqTXFrAgIX7lpcrk/s1600/5208-attachment-horz.jpg"><img style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 400px; DISPLAY: block; HEIGHT: 219px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5469710406977705394" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjKHBZTf3_uDbn2Fs25AEhL7p6qoXPM6qzLbe_tL2w9QQbz2vMfTTs8DE9YolPM0G_BbYataoV0wpkjr9B74fAELUE_csEUUAyCL3_E1WvaUwkkP_cXayaCg0Hic37oBqTXFrAgIX7lpcrk/s400/5208-attachment-horz.jpg" /></a><br /><span style="color:#cc0000;">กินอร่อย</span> ในเมืองยโสธรมีอาหารหลากหลาย โดยเฉพาะอาหารท้องถิ่นอีสานที่ขึ้นชื่อคือ ส้มตำ ในเขตชุมชนบ้านสิงห์ท่า พลาดไม่ได้ ควรไปชิม ปลาส้ม ซึ่งมีแหล่งผลิตอยู่ย่านบ้านสิงห์ท่า และวางขายทั่วไปในเมือง ส่วนของหวานต้องยกนิ้วให้ลอดช่องยโสธร เส้นเล็กเหนียว นุ่ม และหอมใบเตย มีขายตามร้านขนมหวานทั่วไป หากจะซื้อเป็นของฝากต้องไปแหล่งผลิตย่านบ้านสิงห์ท่า<br /></p><p></p><p></p><p><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj7FOo1LgJWYuYwTo3Um84DVMvgVEYnamC3ujwHzvAinaurQmCt1Vku6DJLlgge33A9b0vuxlGUDpW7s92BgHctTElFMDKBlgtbXQsq-ZNISE8XuYaPk-e271EgygFJHcokP2a0oTU1uIKA/s1600/5213-attachment-horz.jpg"><img style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 400px; DISPLAY: block; HEIGHT: 185px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5469710909925648914" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEj7FOo1LgJWYuYwTo3Um84DVMvgVEYnamC3ujwHzvAinaurQmCt1Vku6DJLlgge33A9b0vuxlGUDpW7s92BgHctTElFMDKBlgtbXQsq-ZNISE8XuYaPk-e271EgygFJHcokP2a0oTU1uIKA/s400/5213-attachment-horz.jpg" /></a></p><p><br /><span style="color:#cc0000;">ช้อปสนุก</span> ของฝากจากเมืองยโสธรโดยมากเป็นงานหัตถกรรมที่ขึ้นชื่อคือ หมอนขิตทรงสามเหลี่ยม ตกแต่งลวดลายอย่างทันสมัย แหล่งผลิตอยู่ที่หมู่บ้านศรีฐาน อำเภอป่าติ้ว ยังมีงานจักสานไม้ไผ่ ฝีมือดีของชาวบ้านทุ่งนางโอก และงานแกะสลักเกวียนจำลองที่บ้านนาสะไมย์ในเขตอำเภอเมืองยโสธร </p><p><br /></p><p><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiLGGW5aEM1E-crDkL3x-ECq2CuVh3XTY7AVQ6DkaSjYXj21tFGKJj71bcFzTpfZ0YASL9LNdAOTzrlP7NKXjsamMzhPbYT1_342_A39nZoSkeT5Nf3AaX8622dzMvMOIqRzUibM_uF3DVS/s1600/5215-attachment-horz.jpg"><img style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 400px; DISPLAY: block; HEIGHT: 171px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5469712105119584962" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiLGGW5aEM1E-crDkL3x-ECq2CuVh3XTY7AVQ6DkaSjYXj21tFGKJj71bcFzTpfZ0YASL9LNdAOTzrlP7NKXjsamMzhPbYT1_342_A39nZoSkeT5Nf3AaX8622dzMvMOIqRzUibM_uF3DVS/s400/5215-attachment-horz.jpg" /></a><br /><span style="color:#cc0000;">บั้งไฟยโสธร</span> หากได้มาเยือนในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์แรกของเดือนพฤษภาคมของทุกปี ที่นี่มีงานบุญยิ่งใหญ่คือ "บุญบั้งไฟ" หนึ่งในประเพณีฮีตสิบสอง ที่เชื่อกันว่า เป็นการบูชาเทพเจ้าที่รักษาเมือง เพื่อบูชาพญาแถนผู้สามารถดลบันดาลให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล เรือกสวนไร่นาจะได้อุดมสมบูรณ์ ซึ่งชาวอีสานสืบทอดประเพณีนี้มา และที่สวนสาธารณะพญาแถนยังมีฐานยิงบั้งไฟจำลองให้คนมาเยือนได้ชมอีกด้วย </p><p><br />สอบถามข้อมูลท่องเที่ยวได้ที่ ททท.สำนักงานอุบลราชธานี พื้นที่รับผิดชอบ : </p><p>ยโสธร,อำนาจเจริญ,อุบลราชธานี 264/ ถ.เขื่อนธานี อ.เมือง จ.อุบลราธานี 34000 โทรศัพท์. 0 4524 3770 , 0 4525 0714 โทรสาร. 0 4524 3771 </p><p>อีเมล :tatubon@tat.or.th </p><p>เว็บไต์ :www.tourismthailand.org/ubonratchathani<br /></p><p>ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย </p><p>http://www.tatubon.org<br /></p><p></p>kannikar_011http://www.blogger.com/profile/11082927599028624968noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5293613472113265784.post-70697620249246205422010-05-10T22:43:00.002+07:002010-05-11T00:11:52.762+07:00งานมหัศจรรย์ท่องเที่ยวไทย 2553<div align="center"><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgCfuKrvGrHzU2AbEpbxXqyOJibMan-0TlowQWK50fNzJB1J2aYKSqWKp4m-5HF1p5Z2OJnNgdNhYbP6ojuEAGe9bCu4URG1Pj57Tj26__-NJx28rMt08qMHkkex6RaMAQZafpuR00can2r/s1600/40779-4be7c72aae4fb-1.jpg"><span style="font-size:0;"><img style="TEXT-ALIGN: center; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 144px; DISPLAY: block; HEIGHT: 144px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5469667826930842354" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgCfuKrvGrHzU2AbEpbxXqyOJibMan-0TlowQWK50fNzJB1J2aYKSqWKp4m-5HF1p5Z2OJnNgdNhYbP6ojuEAGe9bCu4URG1Pj57Tj26__-NJx28rMt08qMHkkex6RaMAQZafpuR00can2r/s400/40779-4be7c72aae4fb-1.jpg" /></span></a><span style="font-family:verdana;"> <span style="color:#000000;"><strong>งานมหัศจรรย์ท่องเที่ยวไทย 2553</strong></span></span></div><div align="center"><span style="font-family:verdana;color:#000000;">20-23 พฤษภาคม 2553 เวลา 11.00-21.00 น.</span></div><div align="center"><span style="font-family:verdana;color:#000000;">ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์</span></div><div align="center"><br /><span style="font-family:verdana;color:#3333ff;">ท่องเที่ยวสุขสันต์ สวรรค์เนรมิต</span></div><div align="center"><span style="font-family:verdana;color:#3333ff;">งานท่องเที่ยวที่จะพาคุณไปสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวในมุมมองใหม่</span></div><div align="center"><span style="font-family:verdana;color:#3333ff;">โรงแรม รีสอร์ท แพคเกจทัวร์ สายการบิน สถานที่ท่องเที่ยว ราคาสุดคุ้มทั่วไทย</span></div><div align="left"><br /><span style="font-family:verdana;">บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด ขอเชิญร่วมงาน <strong>“มหัศจรรย์ท่องเที่ยวไทย 2553”</strong> (Wonderful Thailand 2010) เพื่อขานรับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริม และสนับสนุน ธุรกิจท่องเที่ยวให้เติบโต ทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยให้เป็นที่รู้จัก แพร่หลายมากขึ้น และที่สำคัญเพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตลอด ทั้งปีตั้งแต่ช่วงกรีนซีซั่นถึงช่วงไฮซีชั่น</span></div><div align="left"><br /><span style="font-family:verdana;">นีโอ คงความเป็นผู้จัดงานด้านการท่องเที่ยวเพื่อช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจท่องเที่ยวของประเทศอย่างต่อเนื่องกับ Wonderful Thailand 2010 งานท่องเที่ยวครั้งยิ่งใหญ่ โดยรวบรวมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยว เพื่อเสนอแพ็คเกจท่องเที่ยว ที่พัก สายการบิน ในราคาพิเศษสุด พร้อมรับโปรโมชั่นสุดคุ้มมากมาย และยังได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมมากมาย </span></div><div align="left"><span style="font-family:verdana;"></span></div><div align="left"><span style="font-family:verdana;">ซึ่งในปีนี้จะพิเศษและยิ่งใหญ่กว่าปีที่ผ่านมา โดยได้รวบรวมกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากภาคใต้กว่า 100 บริษัทไว้ในโซน “มหัศจรรย์ 2 ฝั่งทะเลใต้ครั้งที่ 2” เพื่อร่วมนำเสนอแพ็คเกจสุดคุ้มและที่พักราคาพิเศษ</span></div><div align="left"><br /><span style="font-family:verdana;">ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : </span></div><div align="left"><span style="font-family:verdana;">http://www.thailanddiveexpo.com</span><a href="http://www.thailanddiveexpo.com/"></a></div><div align="left"><span style="font-family:verdana;">http://www.qsncc.co.th</span></div>kannikar_011http://www.blogger.com/profile/11082927599028624968noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5293613472113265784.post-62106130482466479572010-05-07T00:18:00.001+07:002010-05-07T00:21:18.641+07:00ความมหัศจรรย์ บนผืนทราย<!DOCTYPE HTML PUBLIC "-//W3C//DTD HTML 4.01 Transitional//EN" "http://www.w3.org/TR/html4/loose.dtd">
<br /><html>
<br /><head>
<br /> <title>YouTube - Kseniya Simonova's Amazing Sand Drawing</title>
<br /> <style>
<br /> body {
<br /> font: 12px Arial, sans-serif;
<br /> background-color: #000000;
<br /> color: #FFFFFF;
<br /> height: 100%;
<br /> width: 100%;
<br /> margin: 0;
<br /> overflow: hidden;
<br /> }
<br /> </style>
<br /> <script src="http://s.ytimg.com/yt/jsbin/www-core-vfl163903.js"></script>
<br />
<br /></head>
<br /><body>
<br /><div id="watch-longform-ad" style="display:none;">
<br /> <div id="watch-longform-text">
<br />Advertisement
<br /> </div>
<br /> <div id="watch-longform-ad-placeholder"><img src="http://s.ytimg.com/yt/img/pixel-vfl73.gif" height="60" width="300" /></div>
<br /></div>
<br /><div id="watch-player-div" class="flash-player" style="position: absolute; width:100%; height:100%;"></div>
<br /> <script type="text/javascript">
<br /> var video_url = "http://www.youtube.com/v/vOhf3OvRXKg&showinfo=0&enablejsapi=1&et=OEgsToPDskIkRiwxRTUEF9rUIpr-iYyb&hl=en_US&el=embedded&autoplay=1&fs=1";
<br /> var pop_ads = "";
<br /> var fo = new SWFObject(video_url, "movie_player", "100%", "100%", "7", "#000000");
<br /> var startTime = yt.www.watch.player.processLocationHashSeekTime();
<br /> fo.addParam("allowFullscreen", "true");
<br /> fo.addParam("AllowScriptAccess", "always");
<br /> fo.addVariable("el", "embedded");
<br /> fo.addVariable("ps", "popup");
<br /> if (startTime) {
<br /> fo.addVariable('start', startTime);
<br /> }
<br /> fo.write("watch-player-div");
<br />
<br /> handleResize = function() {
<br /> var windowHeight = window.innerHeight;
<br /> var adjustedHeight = windowHeight - _gel('watch-longform-ad').offsetHeight;
<br /> var percentHeight = Math.round((adjustedHeight * 100) / windowHeight) + "%";
<br /> _gel('watch-player-div').style.height = percentHeight;
<br /> }
<br /> yt.events.listen(window, 'resize', handleResize);
<br /> yt.events.listen(_gel('watch-longform-ad-placeholder'), 'resize', handleResize);
<br /> </script>
<br /></body>
<br /></html>
<br />kannikar_011http://www.blogger.com/profile/11082927599028624968noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5293613472113265784.post-23447240250655468072010-05-06T23:16:00.022+07:002010-05-07T12:52:06.053+07:00ประเพณี บุญบั้งไฟ<span style="font-family:verdana;"><span style="color:#000066;">++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++</span><br /><span style="color:#000066;"></span><br /><span style="color:#000066;">ประเพณี บุญบั้งไฟ จังหวัดยโสธร</span><br /><span style="color:#006600;">วันที่ 5-9 พฤษภาคม 2553</span><br /><span style="color:#cc0000;">สถานที่ ณ สวนสาธารณพญาแถน และ เขตเทศบาลเมืองยโสธร</span><br /><br /><br /></span><span style="font-family:verdana;"></span><div><br /><div><a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhFI4_aVUcPeQDjAPB1g8PqhjOo_U39nPxwiXyKAcBiXUjkrMcep7jbxHPPbrQ2DAQ8GAMTOXs9kwKMuwpPhZLNXP0LNsx28XHi22qAL9KoTvZmcAtMqXT4bnfRW5h-LTBbV7N57Ygz5WGn/s1600/1.jpg"><span style="font-family:verdana;"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5468203382466655970" style="FLOAT: left; MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 252px; CURSOR: hand; HEIGHT: 180px" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhFI4_aVUcPeQDjAPB1g8PqhjOo_U39nPxwiXyKAcBiXUjkrMcep7jbxHPPbrQ2DAQ8GAMTOXs9kwKMuwpPhZLNXP0LNsx28XHi22qAL9KoTvZmcAtMqXT4bnfRW5h-LTBbV7N57Ygz5WGn/s320/1.jpg" border="0" /></span></a><span style="font-family:verdana;"><br /></span></div><div><span style="font-family:verdana;"><br /><br /></span></div><div><span style="font-family:verdana;"><br /></span></div><div><span style="font-family:verdana;"></span></div><div><span style="font-family:verdana;"><br /></span></div><div><span style="font-family:verdana;"><br /><br /></span></div><div><span style="font-family:verdana;"><br /></span></div><div><span style="font-family:verdana;"></span></div></div><div><span style="font-family:verdana;"></span></div><span style="font-family:verdana;"></span><br /><span style="font-family:verdana;"><div><br /></div></span><div><span style="font-family:verdana;"></span></div><div><br /><br /><span style="font-family:verdana;color:#993399;">บุญบั้งไฟ เป็นหนึ่งในฮีตสิบสองเดือนของชาวอีสาน นิยมทำกันในเดือน 6 หรือเดือน 7 ซึ่งจะตกในราวเดือนพฤษภาคม อันเป็นช่วงฤดูฝนเข้าสู่การทำนา ตกกล้า หว่านไถ เพื่อเป็นการบูชาพญาแถน ขอให้ฝนตกก้องตามฤดูกาลเหมือนกับการแห่นางแมวของคนภาคกลาง<br />คำอธิบายเกี่ยวกับประเพณีบุญบั้งไฟ รวมทั้งความคิดเห็นของคนทั้วไปมักกล่าวถึงความสำคัญของบุญบั้งไฟกับวิถีชีวิตของคนอีสานในฐานะพิธีกรรมแห่งความสมบูรณ์ และมีความเกี่ยวเนื่องกับ ตำนาน นิทานปรัมปราพื้นบ้าน เช่น เรื่องเท้าผาแดง - นางไอ่ ตำนานรักสามเส้าของเท้าผาแดง นางไอ่และท้าวพังคีพญานาค ที่มีการแข่งขันจุดบั้งไฟเพื่อแย่งชิงนางไอ่ จนกลายเป็นสงครามสู้รบและมีอภินิหารเล่าลือกันมาหมาย เรื่องพญาคันคากหรือคางคกยกรบขอฝนจากแถนบนฟ้า พญาแถนรบแพ้พญาคันคากจึงยอมให้ฝนแก่โลกแต่มีข้อแม้ว่าหากพญาคันคากต้องการฝนเมื่อใดก็ให้บอกพญาแถนด้วยการจุดบั้งไฟขึ้นไปบนฟ้า หรืออีกตำนานที่เล่าว่าพระพรหมกับพญานาคเป็นเพื่อนรักกัน พระพรหมอยู่บนสวรรค์พญานาคอยู่ใต้บาดาล อยากจะรู้สารทุกข์สุขดิบกันก็ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงตกลงกันว่า เมื่อใดที่พญานาคอยู่ดีมีสุขให้พญานาคจุดบั้งไฟไปบอกข่าวและพระพรหมจะส่งฝนตกลงมาบนพื้นโลกเป็นการตอบรับพญานาค ดังที่ได้กล่าวมา วัตถุประสงค์หลักของบุญบั้งไฟ ก็คือ "การขอฝน" เชื่อกันว่าหากท้องถิ่นใดละเลยไม่จัดงานบุญบั้งไฟ ก็อาจจะก่อให้เกิดภัยพิบัติแก่คนในชุมชน เว้นเสียแต่ต้องทำพิธีขอเลื่อนการจัดที่ศาลปู่ตา (ศาลผีบรรษพบุรุษหรือเทพารักษ์)ของหมู่บ้านเสียก่อน </span><br /><span style="font-family:verdana;color:#993399;"></span><br /><span style="font-family:verdana;color:#993399;"><br /></span><span style="font-family:verdana;"><span style="color:#ff6600;">ลักษณะเฉพาะประการหนึ่งของพิธีบุญบั้งไฟอีสานในอดีตจนกระทั่งปัจจุบันคือ การละเล่นที่มักเต็มไปด้วยสื่อสัญลักษณ์ทางเพศและเพศสัมพันธ์ เช่น อวัยวะเพศชาย (บักแป้น, ขุนเพ็ด) อวัยวะเพศหญิงจำลอง ตุ๊กตาชาย - หญิง ในท่าร่วมเพศ ตุ๊กตารูปสัตว์ (โดยมากมักจะทำเป็นรูปลิง) ในท่าร่วมเพศ รวมทั้งการแสดงออกของผู้คนในขณะร่วมงานบุญบั้งไฟนั้น เห็นได้ชัดว่ามีความเชื่อในเรื่องฟ้าดินโดยที่ฟ้าเป็นสัญลักษณ์ของเพศชาย ดินเป็นสัญลักษณ์ของเพศหญิง ปฏิสัมพันธ์ระหว่างฟ้าดินคือฝนที่โปรยปรายลงมาสู่ดินก่อให้เกิดความเจริญเติบโตงอกงามของพืชพันธุ์ธัญญาหารแก่โลกมนุษย์ เพื่อเป็นการเตือนฟ้าดินมิให้ลืมหน้าที่ มนุษย์จึงใช้อุบายคือ การละเล่นเกี่ยวกับเพศมาเป็นส่วนประกอบในงานบุญบั้งไฟ ทั้งนี้รวมไปถึงการใช้คำเซิ้งที่ใช้ในการ "เซิ้งบั้งไฟ" ที่มักมีคำหยาบปะปนอยู่มากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับอวัยวะเพศซึ่งจะพบในงานบุญบั้งไฟทุกแห่ง อย่างไรก็ตาม การแสดงออกในสัญลักษณ์เชิงเพศที่ปรากฎในงานบุญบั้งไฟดูเหมือนจะถูกจำกัดลงเมื่อเทศกาลงานประเพณีดังกล่าวได้ถูกเปิดตัวสู่การกลายเป็นประเพณีเพื่อตอบสนองต่อการท่องเที่ยว<br /></span><br /><span style="color:#33cc00;">นอกจากนี้ความน่าสนใจของเนื้อหาสาระของประเพณีบุญบั้งไฟยังอยู่ที่ภาพสะท้อนการผสมผสานระหว่างคติความเชื่อฝ่ายพุทธ กับแนวความคิดในแบบสังคมแบบพุทธกาล (ก่อนรับพุทธศาสนา) เกี่ยวกับความอุดมสมบูรณ์ แม้ว่าบุญบั้งไฟแต่เดิมอาจจะไม่ใช่ประเพณีในพระพุทธศาสนา แต่ทว่า ชาวไท - ลาว ได้ทำให้งานบุญนี้เลื่อนไหลเข้ามาอยู่ในบริบทของพุทธศาสนาอย่างชัดเจนมากขึ้น เช่น การเชิญมาร่วมงานก็ถือว่าเป็นการทำบุญ ตลอดจนมีตำนานที่เล่าถึงต้นกำเนิดของพิธีกรรมนี้ว่ามาจากการที่สาวกองค์หนึ่งพุ่งคบเพลิงไปถวายพระเพลิงพระพุทธองค์เนื่องจากเข้าไม่ถึงที่ถวายพระเพลิงศพ นอกจากนี้วัดยังเป็นแหล่งกลางของกิจกรรมในงานบุญ นับตั้งแต่การเตรียมบั้งไฟ ไปจนถึงการเล่นสนุก อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องด้วยพระพุทธศาสนาแทรกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบุญบั้งไฟหลายอย่างเช่น การบวชและการ "ฮดสงฆ์" หรืออภิเษกสมณศักดิ์ให้แก่พระภิกษุ เป็นต้น ดังที่ได้กล่าวมาว่าบุญบั้งไฟเป็นประเพณีที่ทำกันทั้วไปในภาคอีสานปัจจุบัน</span><br /><br /><span style="color:#ff6600;">ปัจจุบันงานบุญบั้งไฟจังหวัดยโสธร มีกำหนดจัดขึ้นในช่วงราวกลางเดือนพฤษภาคมของทุกปี โดยมีกิจกรรมหลักคือ บั้งไฟที่มีการประกวดประชัน บั้งไฟทั้งบั้งไฟขึ้นสูง บั้งไฟสวยงาม (บั้งเอ้หรือบั้งไฟประดับที่ไม่สามารถจุดได้จริง) บั้งไฟโบราณ นอกจากนี้ยังมีการประกวดกาพย์เซิ้งบั้งไฟ ประกวดธิดาบั้งไฟโก้ นักท่องเที่ยวสามารถชมขบวนแห่เหศักดิ์ ขบวนแห่บั้งไฟสวยงาม ขบวนแห่บั้งไฟโบราณ ตลอดขบวนแห่มีการเซิ้งของแต่ละคุ้มวัดที่ส่งบั้งไฟเข้าประกวด ทั้งนี้งานบุญบั้งไฟ จังหวัดยโสธร ได้รับการส่งเสริมได้รับการส่งเสริมในระดับที่มีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมมหรสพรื่นเริง เช่น เวทีคอนเสิร์ต หมอลำ การจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ และสินค้าทั้วไปบริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดยโสธร และโรงเรียนเทศบาล 1 และสวนสนุกในลักษณะงานวัด</span><br /><span style="color:#ff6600;"></span><br /></span><span style="font-family:verdana;"><span style="color:#3333ff;"><strong>กำหนดการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟจังหวัดยโสธร ประจำปี 2553</strong><br /></span><br /><span style="color:#3333ff;">วันที่ 3 พฤษภาคม 2553</span><br /><span style="color:#3333ff;"></span><br /><span style="color:#3333ff;">เวลา 09.00 - 24.00 น. - มหกรรมจำหน่ายสินค้า OTOP บริเวณถนนวารีราชเดช (หน้าวัดมหาธาตุ)</span><br /><span style="color:#3333ff;">เวลา 09.00 - 16.00 น. - ชมกระบวนการจัดทำบั้งไฟสวยงามและบั้งไฟจุดขึ้นสูง</span><br /><span style="color:#3333ff;">เวลา 19.00 น. - ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร นายกเทศมนตรีเมืองยโสธร นักท่องเที่ยว ชมการฝึกซ้อมรำเซิ้ง การเตรียมขบวนแห่ของคณะบั้งไฟ</span><br /></span><span style="font-family:verdana;"><span style="color:#3333ff;">เวลา 20.30 น. - พิธีเปิดงาน / การแสดงสมโภชงานประเพณีบุญบั้งไฟ / มหกรรมอาหาร - การประกวดวงดนตรีสตริง สลับกับการประกวดแดนเซอร์ เพลงเซิ้ง และการแสดงของศิลปินรับเชิญ<br /></span><br /></span><span style="color:#3333ff;"><br /></span><span style="color:#3333ff;"></span><span style="font-family:verdana;"><span style="color:#006600;">วันที่ 4 - 5 พฤษภาคม 2553</span><br /><span style="color:#006600;"></span><br /><span style="color:#006600;">เวลา 09.00 - 24.00 น. - มหกรรมจำหน่ายสินค้า OTOP บริเวณถนนวารีราชเดช (หน้าวัดมหาธาตุ)</span><br /><span style="color:#006600;">เวลา 09.00 - 16.00 น. - ชมกระบวนการจัดทำบั้งไฟสวยงามและบั้งไฟจุดขึ้นสูง</span><br /><span style="color:#006600;">เวลา 13.00 - 16.00 น. - ชมการสาธิตการทำบั้งไฟริวเซ (บั้งไฟญี่ปุ่น) โดยช่างริวเซ จากเมืองชิชิบุ จังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น</span><br /></span><span style="font-family:verdana;"><span style="color:#3333ff;"><span style="color:#006600;">เวลา 19.00 - 24.00 น. - ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร นายกเทศมนตรีเมืองยโสธร นักท่องเที่ยว ชมการฝึกซ้อมรำเซิ้ง การเตรียมขบวนแห่ของคณะบั้งไฟ ณ มมร., คุ้มวัดอัมพวัน, คุ้มวัดดอนพระเจ้า, คุ้มวัดมหาธาตุ, คุ้มวัดศรีไตรภูมิ, คุ้มวัดทุ่งสว่างชัยภูมิ - มหกรรมอาหาร / การประกวดกาพย์เซิ้งบั้ง ประเภทประชาชน/เยาวชน การแสดงของนักเรียน สลับกับศิลปินรับเชิญ<br /></span><br />วันที่ 6 พฤษภาคม 2553</span><br /><span style="color:#3333ff;"></span><br /><span style="color:#3333ff;">เวลา 09.00 - 24.00 น. - มหกรรมจำหน่ายสินค้า OTOP บริเวณถนนวารีราชเดช (หน้าวัดมหาธาตุ)</span><br /><span style="color:#3333ff;">เวลา 09.00 - 16.00 น. - ชมกระบวนการจัดทำบั้งไฟสวยงามและบั้งไฟจุดขึ้นสูง</span><br /><span style="color:#3333ff;">เวลา 13.00 - 16.00 น. - ชมการสาธิตการทำบั้งไฟริวเซ (บั้งไฟญี่ปุ่น) โดยช่างริวเซ จากเมืองชิชิบุ จังหวัดไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น</span><br /><span style="color:#3333ff;">เวลา 19.00 - 24.00 น. - ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร นายกเทศมนตรีเมืองยโสธร นักท่องเที่ยว ชมการฝึกซ้อมรำเซิ้ง การเตรียมขบวนแห่ของคณะบั้งไฟ ณ คุ้มวัดสิงห์ท่า, คุ้มวัดศรีธรรมาราม, คุ้มวัดใต้ศรีมงคล - มหกรรมอาหาร / การแสดงของศิลปินรับเชิญ / การประกวดนางฟ้าจำแลง (มอบรางวัลวันที่ 7 พ.ค. 53 เวลา 19.00 น. ณ กองอำนวยการ) </span></span><span style="color:#3333ff;"><br /></span><span style="color:#3333ff;"><br /><br /><span style="font-family:verdana;"><span style="color:#009900;">วันที่ 7 พฤษภาคม 2553</span><br /><span style="color:#009900;"></span><br /><span style="color:#009900;">เวลา 07.00 - 14.00 น. - การเซิ้งบั้งไฟ และการละเล่นแบบโบราณ (ตามวิถีวัฒนธรรมดั้งเดิม)</span><br /><span style="color:#009900;">เวลา 09.00 - 24.00 น. - มหกรรมจำหน่ายสินค้า OTOP</span><br /><span style="color:#009900;">เวลา 16.00 น. - ประกวด และโชว์บั้งไฟสวยงามตามแนวถนนแจ้งสนิทจากหน้าศาลจังหวัดยโสธรถึงตรงข้ามหน้าธนาคารออมสิน - แดนเซอร์ทุกคนของกองเชียร์ทุกคณะ / ชาวสตรีเหล็กและพี่น้องชาวสีม่วงพร้อมด้วยผู้เข้าประกวดนางฟ้าจำแลงพร้อมกัน ณ กองอำนวยการ</span><br /><span style="color:#009900;">เวลา 19.30 - 22.00 น. - พิธีมอบรางวัลการประกวดธิดาบั้งไฟโก้ การประกวดานางฟ้าจำแลง การประกวดแดนเซอร์เพลงเซิ้ง และการแระกวดกาพย์เซิ้ง ประเภทประชาชนและเยาวชน - พิธีเปิดมหกรรม ROCKET CARNIVAL โดยสตรีเหล็ก พี่น้องชาวสีม่วงทั่วไทยและทั่วโลก - เริ่มการประกวดกองเชียร์ - การประกวดธิดาบั้งไฟโก้ (พร้อมพิธีมอบรางวัล) - มหกรรมอาหาร / การแสดงของศิลปินรับเชิญ</span><br /><br /><br />วันที่ 8 พฤษภาคม 2553<br /><br />เวลา 09.00 - 24.00 น. - มหกรรมจำหน่ายสินค้า OTOP<br />เวลา 07.00 น. - รถบั้งไฟสวยงามเตรียมพร้อมตามจุด ที่กำหนดก่อนเริ่มขบวนแห่<br />เวลา 08.00 น. - ขบวนแห่ถ้วยรางวัล จากสำนักงานเทศบาลเมืองยโสธรไปยังกองอำนวยการจัดงาน - คณะกรรมการเจ้าหน้าที่เตรียมพิธีเปิด<br />เวลา 09.00 น. - ประธานในพิธีเปิดงานเดินทางมาถึงกองอำนวยการจัดงาน วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ - ประธานในพิธีเปิดงานขึ้นบนเวทีกองอำนวยการ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร มอบของที่ระลึกแด่ประธานในพิธี จากนั้นประธานในพิธีไปที่แท่นรับคำกล่าวรายงาน - ประธานคณะกรรมการจัดงาน กล่าวรายงานการจัดงานต่อประธานในพิธี - ประธานในพิธีกล่าวเปิดและลั่นฆ้องชัยเปิดงาน จำนวน 3 ครั้ง - วงดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาฤกษ์ เจ้าหน้าจุดพลุเสียงและบั้งไฟตะไลเวลา 09.20 น. - ขบวนแห่มเหศักดิ์ ขบวนศูนย์วัฒนธรรมจังหวัด ขบวนแห่บั้งไฟสวยงาม ขบวนแห่บั้งไฟโบราณ ขบวน ROCKET CARNIVAL โดยสตรีเหล็กพี่น้องชาวสีม่วงทั่วไทย และทั่วโลก พร้อมขบวนอื่นๆ เคลื่อนขบวนผ่านหน้ากองอำนวยการไปถึงวัดศรีไตรภูมิ<br />เวลา 12.00 น. - ประธานร่วมรับประทานอาหารกับคณะกรรมการจัดงานและผู้เข้าร่วมงานจากประเทศญี่ปุ่น ลาว และเวียดนาม<br />เวลา 14.00 น. - จัดพบปะกลุ่มเจ้าของผลิตภัฑณ์จากข้างของจากญี่ปุ่นพบปะกับผู้ประกอบการค้าข้าวยโสธรต่อด้วยการบริการนวดแผนไทย<br />เวลา 16.00 น. - มหกรรมอาหาร - การแสดงของศิลปินรับเชิญ<br />เวลา 18.00 น. - เตรียมเข้าสู่บรรยากาศงานพาแลงเปลี่ยนศิลปะ วัฒนธรรมระหว่างไทย ญี่ปุ่น ลาว และเวียดนาม - คณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ และแขกรับเชิญพร้อมกันที่บริเวณจัดงานพาแลง<br />เวลา 19.00 น. - ประธานในพิธีงานพาแลง เดินทางมาถึงบริเวณจัดงานพาแลง<br />เวลา 19.15 น. - ประธานในพิธีกล่าวเปิดงาน และกล่าวต้อนรับผู้ร่วมงาน - ประธานในพิธีมอบโล่เกียรติคุณให้ผู้สนับสนุนการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2553 - นายกเทศมนตรีเมืองชิชิบุ ประเทญี่ปุ่น เวียดนาม ลาว กล่าาวแสดงความรู้ - ร่วมรับประทาน และชมการแสดง<br />เวลา 22.00 น. - เสร็จสิ้นกิจกรรมงานพาแลง<br /><br /><br /></span><span style="font-family:verdana;"><span style="color:#009900;">วันที่ 9 พฤษภาคม 2553<br /><br />เวลา 06.00 น. - คณะบั้งไฟประเภทต่างๆรายงานตัวต่อคณะกรรม<br />เวลา 08.00 น. - ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายกเทศมนตรีเมืองยโสธรจุดั้งไฟเสี่ยงทาย บั้งไฟปฐมฤกษ์ และจุดบั้งไฟโบราณ (วงศ์บั้งไฟ) ทุกประเภท - เริ่มแข่งขันบั้งไฟแฟนซี และบั้งไฟขึ้นสูงตามสูจิบัตร<br />เวลา 10.00 น. - การจุดบั้งไฟริวเซ ของประเทศญี่ปุ่น<br />เวลา 15.30 น. - เตรียมพิธีมอบรางวัลการประกวดขบวนแห่บั้งไฟ บั้งไฟสวยงาม ขบวนแห่บั้งไฟโบราณ การแข่งขันบั้งไฟขึ้นสูง บั้งไฟแฟนซี และการประกวดกองเชียร์<br />เวลา 16.30 น. - ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ประธานในพิธีเดินทางมาถึงกองอำนวยการจุดบั้งไฟ - ประธานในพิธีเชิญประธานในพิธีมอบรางวัลการประกวดแข่งขันบั้งไฟประเภทต่างๆ - ประธานในพิธี และผู้มีเกียรติถ่ายภาพร่วมกับคณะบั้งไฟ และณะอื่นๆที่ได้รับรางวัล - เสร็จพิธี และกิจกรรมประเพณีบุญบั้งไฟจังหวัดยโสธร ประจำปี 2553<br />เวลา 19.00 น. - มหกรรมอาหาร การแสดงของศิลปินรับเชิญ<br /></span><br /><br />สอบถามรายละเอียดTAT Call Center 1672ททท. สำนักงานอุบลราชธานี โทร. 0 4524 3770, 0 4525 0714<br /><br /></span><a href="http://thai.tourismthailand.org/festival-event/grand-content-7283.html"><span style="font-family:verdana;">http://thai.tourismthailand.org/festival-event/grand-content-7283.html</span></a></span></div>kannikar_011http://www.blogger.com/profile/11082927599028624968noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5293613472113265784.post-20753807917617954142010-05-06T23:07:00.006+07:002010-05-07T00:07:57.751+07:00เขื่อนเชี่ยวหลาน...ผืนน้ำมรกตกลางหุบเขา<a href="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhLvLmzkPbrPHIjb3NwL2gSP5P9jcZIJUz-4XwyVavq0OKN9Klc4KG2jINVcMA32Wb5NEU0ZbioAKTYqCGYlbuB2rQOgRnP2itA-wvNCSCSFlcnFevIjiZQWjv2NB9Q0fz0sx1ln1elR83J/s1600/1.jpg"><img style="MARGIN: 0px 10px 10px 0px; WIDTH: 400px; FLOAT: left; HEIGHT: 197px; CURSOR: hand" id="BLOGGER_PHOTO_ID_5468204443506349378" border="0" alt="" src="https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhLvLmzkPbrPHIjb3NwL2gSP5P9jcZIJUz-4XwyVavq0OKN9Klc4KG2jINVcMA32Wb5NEU0ZbioAKTYqCGYlbuB2rQOgRnP2itA-wvNCSCSFlcnFevIjiZQWjv2NB9Q0fz0sx1ln1elR83J/s400/1.jpg" /></a><br /><br /><br /><p> </p><p> </p><p> </p><p> </p><p> </p><p> </p><br /><br /><br /><br /><br /><br /><br />สุราษฎร์ธานี...เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง แหล่งธรรมะ สุราษฎร์ธานี ไม่ใช่มีเพียงความเด่นตามคำขวัญเพียงแค่นั้น ความงามที่ชวนสัมผัส และสร้างความจดจำมิรู้ลืมอีกแห่ง ที่ไม่แพ้ที่ใดเลยคือ....เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือที่บรรดานักท่องเที่ยวให้สมญานามอีกชื่อว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย” (เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเหมือนที่จีน)<br /><br />ทริปนี้ไปเยือนมาเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 53 ที่ผ่านมา ด้วยราคาค่าเดินทางรวมทั้งทริปจากกรุงเทพฯ เพียง 3,900 บาท เท่านั้น (ร่วมค่าเครื่องบินไป-กลับ) ไปได้ถึง 3 วัน 2 คืน นักท่องเที่ยวบางท่านเกรงว่าค่าใช้จ่ายสูง ที่จริงเที่ยวเมืองไทยไม่แพงอย่างที่คิด เพียงแค่วางแผนการท่องเที่ยวล่วงหน้าให้ดี หาข้อมูลก่อนท่องเที่ยวให้ครอบคลุม เชื่อหรือไม่ว่าคุ้มค่าการเดินทางจริงๆ เที่ยวครั้งนี้ซื้อทัวร์ให้นำทาง ได้ศึกษามาเป็นอย่างดีแล้วว่าชาวบ้านท้องถิ่นจะมีความรู้ด้านการบริการนำเที่ยวที่นั่นเป็นอย่างดี เมื่อเดินทางถึงสนามบิน รถตู้มารอรับ ได้นำเราทั้ง 4 คน แวะซื้ออาหารประจำชาติ (เน้นส้มตำ ไก่ย่าง) ไปทานที่สันเขื่อน ซึ่งเราไปถึงกันเย็น บรรยากาศสันเขื่อนเวลานั้น จะมีแต่เฉพาะชาวบ้านในพื้นที่เท่านั้นที่พาครอบครัวไปพักผ่อน อากาศเริ่มเย็นสบาย และภาพตรงหน้าเห็นวิวทิวเขาสลับซับซ้อนมีหมอกจางๆ ชมอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าซ่อนตัวลงหลังทิวเขา ส่องแสงเป็นสีส้ม ธรรมชาติเปิดฉากการต้อนรับที่แสนจะอบอุ่นจริงๆ เมื่อได้ลิ้มลองส้มตำรสเด็ดฝีมือชาวบ้านกันอิ่มแล้ว รถตู้เดินทางเข้าที่พักซึ่งเป็นรีสอร์ทท่ามกลางหุบเขา และตั้งใจว่าจะตื่นมาชมหมอกตอนเช้า แต่ค่ำคืนนี้ขอเก็บภาพหมู่ดาวไว้ในความทรงจำก่อน…<br /><br />รุ่งอรุณวันใหม่ ประมาณ 6 โมงเช้า ต้องทึ่งกับภาพที่เห็นเมื่อเปิดม่านมองออกไปจากระเบียง สะดุดกับความงดงามที่เห็นอยู่ตรงหน้า สายหมอกล้อมลอบหุบเขา หยดน้ำค้างเกาะตามหน้าต่างและดอกไม้ บรรยากาศสดชื่น เย็นสบาย นักท่องเที่ยวบางกลุ่มเริ่มทยอยสะพายกล้องออกไปเพื่อเก็บภาพความประทับใจที่ได้รับจากธรรมชาติล้วนๆ ซึ่งรวมทั้งเรา 4 คนด้วย จากนั้นรถตู้นำเราไปล่องเรือแคนูที่ลำธารใกล้รีสอร์ทกันต่อ สองข้างทางที่ล่องเรือนั้นเต็มไปด้วยอากาศที่สะอาด บริสุทธิ์ และเสียงกระรอกขับร้องดังก้องป่าอยู่ตลอดเวลา ธรรมชาติเริ่มทักทายเราอีกครั้ง<br /><br />รถตู้มารับเรามุ่งสู่จุดหมายในการมาเยือนสุราษฎร์ธานีครั้งนี้ ที่…เขื่อนเชี่ยวหลาน ลงเรือประมาณ 9 โมง มุ่งหน้าสู่แพที่พัก อากาศกำลังดีไม่ร้อน ได้ชมภาพธรรมชาติของเขื่อนที่สรรสร้างภูเขาทอดตัวเป็นทางยาวเกิดเป็นรูปร่างต่างๆ กัน ตามแต่จินตนาการ เมื่อถึงแพที่พักชาวบ้านที่นั่นต้อนรับเราคล้ายกับโฮมสเตย์ อบอุ่น และเป็นกันเองมาก ประดุจเป็นญาติสนิทของพวกเขา เราเริ่มเล่นน้ำ พายเรือคายัค ให้อาหารปลาที่อยู่รอบๆ แพ และเมื่อแดดร่มลงเราได้นั่งเรือออกไปชมกุ้ยหลินของเมืองไทย ชาวบ้านขนานนามที่นี่ว่าเขาสามเกลอ มีเขาหินเรียงกันอยู่สามลูก คนขับดับเครื่องเรือให้ได้ชมความอัศจรรย์อย่างเต็มอิ่ม บรรยากาศยามนั้นเงียบสงบ สัมผัสเสียงนกร้องมาจากไกลๆ เสียงน้ำกระทบท้องเรือ ท้องฟ้าสวยอากาศเปิดโล่ง ไม่รอช้าเราทั้ง 4 เกลอ นำกล้องออกมาเก็บภาพเขาสามเกลอทันที อีกมุมหนึ่ง...ที่เป็นความงดงามและความบังเอิญที่เกิดจากธรรมชาติ โบกมือลาเขาสามเกลอ เรือเดินทางต่อไปที่แพของทางอุทยานฯ ที่นั่นมีปลาเยอะมาก เราสามารถเอาขาหย่อนลงน้ำและให้อาหารปลาไปพร้อมๆ กัน ปลานับร้อยจะมาสัมผัสขาเรา ดูคล้ายพากันแหวกว่ายวนเวียนหยอกล้อเล่นกับเราซึ่งจะไม่ทำให้เราเจ็บหรือเกิดอันตราย เป็นอีกสิ่งที่ได้เข้าใกล้ธรรมชาติอย่างถึงเนื้อถึงตัว ประทับใจมาก จุดนี้ไม่แนะนำให้นักท่องเที่ยวเล่นกับปลาแรงๆ เช่น เอาเท้าเตะ หรือพยายามจับตัวปลา ขณะที่เพลิดเพลินกับการให้อาหารปลา คนก็ท้องร้องแล้วเหมือนกัน เรือพากลับแพที่พักและเตรียมออกส่องสัตว์ตอนกลางคืนกันต่อ ท่องราตรียามค่ำคืนที่เขื่อน ไม่พบสาวสวยแต่พบชะนีโดดไปมาบนยอดต้นไม้สูง ท้องฟ้าประดับไฟด้วยดวงดาว เชื้อเชิญให้คู่รักหลายคู่จูงมือกันมานั่งนับดาว ถ้ามีดาวตกคงเป็นภาพที่สวยงามไม่น้อย ราตรีนี้อากาศเย็นเข้านอนที่แพห่มผ้าที่ทอจากหุบเขารอบเขื่อน<br /><br />ยามเช้าแดดส่องแพอุ่นๆ เรือพาเราแล่นผ่านหมอกจางๆ ที่ลอยอยู่เหนือผิวน้ำไปยลโฉมนกเงือก น่าอิจฉานกที่สามารถอยู่กับธรรมชาติได้อย่างลงตัวขนาดนี้ จากนั้นขึ้นบก แวะไหว้พระที่พระบรมธาตุไชยา ทานอาหารทะเล และตามธรรมเนียม แวะซื้อของฝากอันเลื่องชื่อ ไข่เค็ม เต้าส้อ ก่อนกลับสู่บ้านที่แท้จริงของเรา... กรุงเทพฯ แม้ว่าที่นี่เคยเป็นตำนานการสร้างเขื่อนที่ทำให้สัตว์ป่าหลายชนิดต้องมาจบชีวิตลง ก่อเกิดสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติอีกรูปแบบหนึ่งขึ้นมา แต่เรา...มนุษย์ ก็จะไม่ลืมที่จะท่องเที่ยวอย่างมีจิตสำนึก อย่างรู้ค่า และเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อให้ธรรมชาติและสัตว์ป่าได้อวดโฉมให้คนไทยรุ่นหลังได้มีโอกาสชื่นชมกับสิ่งมหัศจรรย์ที่ทางธรรมชาติได้มอบไว้ให้ และเพื่อเมืองไทย เราจะไปได้ทุกที่....ตลอดไปkannikar_011http://www.blogger.com/profile/11082927599028624968noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-5293613472113265784.post-24453440715703192732010-04-28T21:03:00.003+07:002010-04-30T10:53:42.787+07:00แพ็คเกจที่น่าสนใจคาราวานแรลลี่ อร่อยทุกไร่ เที่ยวสุขใจไปกับโมบายโฟน <br /><br />การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยร่วมกับ DTAC และนิตยสารท่องเที่ยวและยานยนต์ Auto Vision & Travel ส่งเสริมกิจกรรมท่องเที่ยวสู่ภาคตะวันออก แหล่งผลไม้อุดมสมบูรณ์และรสชาติอร่อย ร่วมสนุกกับการแข่งขันแรลลี่รูปแบบใหม่ โดยใช้ข้อความในโทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือสื่อสารในการเดินทางและทำกิจกรรม พร้อมทั้งทัศนศึกษาแหล่งท่องเที่ยวสำคัญตลอดเส้นทางและเลือกซื้อผลไม้ รวมถึงร่วมประกวดแฟนซีลุ้นรับของรางวัลมากมาย โดยมีการจัดคาราวาน 2 เส้นทาง คือ <br /><br />เส้นทางที่ 1 นครนายก - ปราจีนบุรี - สระแก้ว <br />ตอน นครนายกเมืองผลไม้ ชมชีวิตหมู่บ้านไม้เค็ด ชอปปิ้งสุดเด็ดที่ตลาดโรงเกลือ <br />ระหว่างวันที่ 1-2 พฤษภาคม 2553 (2 วัน 1 คืน) <br /><br />วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม 2553<br /><br />06.30 น. นัดพบกัน ณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ พร้อมรับเสื้อและรับประทานอาหารเช้า<br /><br />07.00 น. ลงทะเบียนรับ ซิมการ์ดจากดีแทค คันละ 1 ซิม พร้อมรับฟังคำชี้แจงรายละเอียดเส้นทาง และวิธีการเล่นแรลลี่ในนวัตกรรมใหม่กับโมบายโฟน<br /><br />07.45 น. ประธานในพิธีกล่าวเปิดงาน<br /><br />08.00 น. พิธีตีธงปล่อยรถคันแรกของจากจุด START ออกเดินทางในรูปแบบแรลลี่สู่จังหวัดนครนายก มีการเล่นเกมส์การแข่งขัน การหา RC ตลอดเส้นทาง<br /><br />CT 1 แวะเก็บภาพเป็นที่ระลึกที่เขื่อนขุนด่านปราการชล (เขื่อนคลองท่าด่าน)<br />CT 2 เยี่ยมชมสวนผลไม้นานาชนิดที่ "สวนศรียา" (ลุงไสว) พร้อมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ และรับประทานอาหาร<br />CT 3 ออกเดินทางไปทำกิจกรรมที่ "กลุ่มไม้เค็ดโอมสเตย์" ซึ่งเป็นสวนผลไม้แบบผสมผสาน (ปราจีนบุรี)<br />CT 4 วัดแก้วพิจิตร ชมโบสถ์ที่มีการปสมปสานของศิลปะทั้งไทย จีน เขมร และตะวันตกได้อย่างลงตัว <br />CT 5 พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์ พิพิธภัณฑ์ตะเกียง <br /><br />15.30 น. เข้าพักที่ดรงแรมแคนทารี โฮเทล กบินทร์บุรี และพักผ่อนตามอัธยาศัย<br /><br />18.00 น. ร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์อาหารค่ำที่ โรงแรม แคนทารี โฮเทล กบินทร์บุรี และ เชิญเข้าร่วมประกวดแต่งชุดแฟนซีพร้อมรับของรางวัลมากมาย<br /><br />วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม 2553<br /><br />07.00 น. รับประทานอาหารเช้า<br /><br />08.30 น. ออกเดินทางสู่โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ เรียนรู้เรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่น หนึ่งในโครงการมูลนิธิชัยพัฒนา ศูนย์กลางการอบรมเกษตรกรและกระบือในการทำนา<br /><br />11.00 น. รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านเจ้เง็ก เมนูแนะนำคือ "อาหารอร่อย 5 ชนเผ่า" อำเภอวัฒนานคร<br /><br />13.00 น. เลือกซื้อของฝากที่ "ตลาดโรงเกลือ" ทั้งของมือหนึ่ง มือสอง ก่อนแยกย้ายกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ<br /><br /><br />ค่าใช้จ่าย ราคาท่านละ 950 บาท รับจำนวน 120 คน รับสมัครวันนี้ถึง 26 เมษายน 2553<br /><br />ราคานี้รวมที่พัก อาหาร 5 มื้อ ค่ากิจกรรมทั้งหมด ค่าประกันภัย พร้อมรับเสื้อและของที่ระลึกฟรี<br /><br />หมายเหตุ กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม<br /><br />http://thai.tourismthailand.org/package-promotion/content-234.htmlkannikar_011http://www.blogger.com/profile/11082927599028624968noreply@blogger.com0